มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสถาบันการศึกษาที่หลายคนคุ้นชื่อและรู้จักในฐานะมหาวิทยาลัยเปิดที่เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา รวมถึงบุคคลทั่วไป สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้อย่างเสรี โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยอื่น ๆ จะมีเพียงแค่บางคณะที่ต้องใช้ผลคะแนนยื่น แต่ทว่า การเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงกลับถูกมองว่ายากและท้าทาย จนมีคำถามขึ้นมาว่า “เรียนรามฯ เป็นเรื่องยากจริงหรือ?”
ความยากในมุมของการเรียนด้วยตนเองด้วยชั่วโมงบรรยายที่จำกัด
ความยากของการเรียนที่รามคำแหงมักมาจากระบบการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนด้วยตนเอง นักศึกษาต้องมีความรับผิดชอบและจัดการเวลาในการเรียนได้ด้วยตนเอง เนื่องจากระบบของรามคำแหงไม่ได้บังคับให้เข้าเรียนในห้องเรียนทุกวันเหมือนมหาวิทยาลัยทั่วไป การเรียนที่นี่จึงต้องใช้วินัย ความตั้งใจ และการจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพ เพราะนักศึกษาต้องอ่านหนังสือเอง ติดตามการบรรยาย และเตรียมตัวสำหรับการสอบด้วยตนเองเป็นหลัก และหนึ่งในความท้าทายของการเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ คือการที่จำนวนชั่วโมงบรรยายนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ แล้วน้อยกว่า กล่าวคือ โดยทั่วไปวิชาบรรยาย 3 หน่วยกิต นักศึกษารามคำแหงจะมีชั่วโมงบรรยายเพียง 100 นาทีต่อสัปดาห์ ในขณะที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ จะใช้เวลาบรรยายประมาณ 180 นาทีต่อสัปดาห์ ทำให้นักศึกษาของรามฯ จะต้องใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองมากขึ้น เรียกได้ว่าความสำเร็จที่รามคำแหงขึ้นอยู่กับการตั้งใจทบทวนและศึกษาด้วยตนเองเป็นหลัก และเมื่อเป็นภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาจีนแล้ว การเรียนรู้ด้วยตนเองก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น
การเตรียมตัวสอบที่ท้าทาย
การสอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าการเรียนที่นี่เป็นเรื่องยาก การสอบมักจัดขึ้นในลักษณะของการทดสอบความรู้ที่ครอบคลุมในเนื้อหาวิชาทั้งหมด โดยสำหรับวิชาภาษาจีนแต่ละวิชานั้นจะประกอบด้วยคำศัพท์ใหม่จำนวนมากกว่า 200 คำต่อวิชา และท่านที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีน 7 วิชาครบตามอัตรา อาจกลับกลายเป็นภาระที่ท่านจะต้องเตรียมตัวให้ดีในการสอบ เพราะนอกจากจะต้องท่องจำคำศัพท์ การอ่านออก และแปลความหมายได้แล้วนั้น ท่านจำเป็นจะต้องเขียนอักษรจีนได้อย่างถูกต้องอีกด้วย เพราะข้อสอบโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการทดสอบความสามารถในการเขียนเป็นส่วนมาก ทำให้ต้องมีการทบทวนและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งสำหรับนักศึกษาที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนมาก่อนหรือไม่มีการเตรียมตัวที่ดี อาจพบว่าการสอบเป็นเรื่องที่ท้าทายและสร้างความกดดันไม่น้อย และที่สำคัญ เนื้อหาที่ออกสอบหลายครั้งเป็นเนื้อเรื่องในบทเรียน กลับกลายเป็นว่าผู้เรียนจะต้องท่องจำเนื้อหาในบทเรียนให้ได้ เช่น จะต้องจำให้ได้ว่าชานเตี้ยนมีพี่น้องกี่คน เป็นต้น ดังนั้น การที่จะสอบให้ได้คะแนนดี การมีพื้นฐานภาษาจีนที่แข็งแกร่งอาจยังไม่พอสำหรับการสอบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำเกรดเฉลี่ยให้ดี
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์
แม้ว่ารามคำแหงจะมีระบบการเรียนออนไลน์มาเป็นระยะเวลาหลาย 10 ปี แต่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ในรูปแบบสดหรือผ่านวิดีโอยังมีอยู่ หลายคนอาจคิดว่ามหาวิทยาลัยเปิดสอนแบบออนไลน์ทั้งหมด แต่ในความจริงแล้วมีเพียงประมาณ 20% ของวิชาทั้งหมดเท่านั้นที่มีการบรรยายออนไลน์สด หรือแบบวิดีโอ ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่ยังต้องมุ่งมั่นเข้าเรียนตามเวลาเพื่อให้ได้เนื้อหาบรรยายครบถ้วน เนื่องจากการจัดตารางการเรียนการสอนที่รามคำแหงยังคงมีข้อจำกัดเนื่องจากจำนวนนักศึกษาและวิชาที่เปิดสอนกว่า 2000 วิชา แม้จะมีการบรรยายที่บางนาเพิ่มขึ้น แต่มหาวิทยาลัยยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการจัดสรรวิชาลงห้องเรียน อีกทั้งการบริหารค่าใช้จ่ายทำให้การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นไปได้ยาก ด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงินที่มหาวิทยาลัยคงค่าเรียนมานาน
ความยืดหยุ่นที่เป็นข้อได้เปรียบ
อย่างไรก็ตาม การเรียนที่รามคำแหงมีข้อดีที่ช่วยลดความยากของการเรียนได้ นั่นคือความยืดหยุ่นในการจัดการตารางเรียนและเวลาสอบ นักศึกษาสามารถเลือกเรียนในเวลาและรูปแบบที่เหมาะกับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนควบคู่กับการทำงาน หรือการใช้เวลาทบทวนบทเรียนตามความสะดวก นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลเสริมมากมาย เช่น ติวเตอร์ออนไลน์ กลุ่มติว และแหล่งข้อมูลจากรุ่นพี่ที่ช่วยให้นักศึกษามีแนวทางในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น
ข้อได้เปรียบจากระบบการสอบซ่อม
ข้อดีที่น่าสนใจที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงมอบให้นักศึกษา คือ ระบบการสอบซ่อมที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สอบตกหรือขาดสอบสามารถสอบใหม่ได้ การสอบซ่อมนี้ช่วยให้นักศึกษามีโอกาสแก้ตัวและเพิ่มเทคนิคในการวางแผนการเรียนรู้ บางคนใช้วิธีการลงวิชามากถึง 7 วิชาในหนึ่งเทอม แต่แบ่งการสอบเป็นช่วง คือ สอบปลายภาค 4 วิชา และรอสอบซ่อมอีก 3 วิชาที่เหลือ เทคนิคนี้ช่วยให้นักศึกษาเรียนจบตามกำหนดได้ แต่ก็ต้องบริหารเวลาการอ่านหนังสืออย่างรอบคอบ เพราะการเลือกแบ่งวิชาอ่านหนังสือออกเป็นช่วง ๆ ในท้ายที่สุดแล้ว วิชาที่ถูกแบ่งออกไปสอบซ่อมก็จะไปลดระยะเวลาในการอ่านหนังสือสอบของวิชาในเทอมถัดไป
การมีระบบคะแนนช่วยสำหรับในบางวิชา
ในภาควิชาภาษาจีน อาจารย์หลายท่านเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ส่งการบ้านหรือทำงานเพิ่มเติมพร้อมรับการตรวจและคำแนะนำแก้ไข ซึ่งแนวทางการสอนนี้ช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกฝนการเขียนภาษาจีนอย่างถูกต้องมากขึ้น และส่งผลดีต่อการจดจำอักษรจีนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ในบางวิชา คะแนนจากการบ้านหรือแบบฝึกหัดจะถูกนำมาใช้แทนคะแนนสอบ หรือมีการมอบหมายให้ทำรายงานเพื่อเพิ่มคะแนนสะสม ซึ่งช่วยสนับสนุนผลการเรียนให้ดียิ่งขึ้น การประเมินในลักษณะนี้ไม่เพียงกระตุ้นให้นักศึกษามีความตั้งใจทำงานด้วยตนเอง แต่ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาเพิ่มคะแนนสะสมเพื่อผลการสอบที่ดีขึ้น
ข้อคิดสำหรับผู้ที่สนใจเรียนสาขาวิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ที่รามคำแหง
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง การเตรียมตัวและการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ หากผู้เรียนมีความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่น และการจัดการเวลาได้ดี การเรียนที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป นอกจากนี้ การหาเพื่อนร่วมเรียนหรือติวเตอร์อาจช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถกล่าวได้ว่า รามคำแหงคือมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน แม้ว่าการเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอาจจะมีข้อจำกัดและความยากที่ท้าทาย แต่อาจจะไม่ใช่อุปสรรคที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้ เนื่องด้วยระบบที่เปิดโอกาสและการสอบซ่อมที่ช่วยให้นักศึกษามีโอกาส 2 ครั้งในการสอบ 1 วิชา ต่อ 1 ภาคการศึกษา นักศึกษาที่ตั้งใจจริงและจัดการเวลาการเรียนรู้ได้ดีก็ย่อมสามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่น ความพยายาม และการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนที่รามคำแหงอาจดูยากสำหรับหลายคน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินความสามารถของผู้ที่ตั้งใจจริง ด้วยระบบการเรียนที่ยืดหยุ่น การมีวินัย และการเตรียมตัวที่ดีนั้นล้วนแต่มีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จจากการศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง
"เพราะที่นี่อาจไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายที่สุด แต่เป็นเส้นทางที่เปิดกว้างให้ผู้เรียนได้สร้างความสำเร็จในแบบของตนเองต้องการ"